เงินสี่ด้าน งานสี่ประเภท

แบ่งปัน ..

..

สวัสดีรับเพื่อน ๆ ทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมบล็อกของผมวันนี้ผมขอนำเสนอแนวคิดใน การเลือกทางเดินของชีวิต มันขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเลือกเดินทางใหนคุณคิดฝ้นอยากจะเป็นอยากจะเป็นอย่าง ไร คุณกำหนดเองได้อยู่ที่ความคิดและความฝันของคุณเท่านั้น
เรียบเรียงจาก พ่อรวยสอนลููก Rich Dad Poor Dad และ พ่อรวยสอนลููก#2 (RichDad's cashelow Quadrant)สำหรับเพื่อน ๆที่ยังไม่เคยอ่านหนังสือเล่มนี้ ก็สามารถรับการแบ่งปันจากบทความนี้นะครับเป็นประโยชน์มาก หรือเพื่อนๆอาจจะหามาอ่านได้ผมรับรองว่าเพื่อน ๆ จะมีแนวคิดที่เปลี่ยนไปอย่างแน่นอนเรามาเริ่มกันเลยนะครับ

พ่อ แท้ๆ ของผู้เขียน (ไม่ใช่ผมนะอย่าเข้าใจผิดเป็นพ่อของโรเบิร์ตเขา) มีตำแหน่งเป็นอธิบดีกรมการศึกษาของรัฐฮาวาย ในหนังสือผู้เขียนเรียกว่า Poor Dad
ผู้ เขียนมีเพื่อนที่สนิทมากตั้งแต่เด็กๆ ชื่อ ไมค์ และพ่อของไมค์เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในกิจการหลายๆ อย่าง จนมีอาณาจักรที่ใหญ่โต ในหนังสือผู้เขียนเรียกว่า Rich Dad

พ่อ ทั้งสองของผู้เขียนต่างก็เป็นคนดี มีผู้เคารพนับถือมาก แต่มีคำสอนเรื่องการดำรงชีวิตที่แตกต่างกันสุดขั้ว ผู้เขียนได้รับฟังคำสอนที่แตกต่างกันทั้ง 2 ด้านตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ทำให้ผู้เขียนต้องรู้จักวิเคราะห์พิจารณาในคำสอนตั้งแต่เด็ก

พ่อ ทั้งสองของผู้เขียนต่างก็เป็นคนดี มีผู้เคารพนับถือมาก แต่มีคำสอนเรื่องการดำรงชีวิตที่แตกต่างกันสุดขั้ว ผู้เขียนได้รับฟังคำสอนที่แตกต่างกันทั้ง 2 ด้านตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ทำให้ผู้เขียนต้องรู้จักวิเคราะห์พิจารณาในคำสอนตั้งแต่เด็ก


เงินสี่ด้านหมายถึงรายได้ที่มาจากงานสี่ประเภท
รายได้ของคุณมาจากทางใหนของ "เงินสี่ด้าน"



ด้านที่ 1 : E = Employee ซึ่งก็คือรายได้จากการเป็นลูกจ้างนั้นเอง

ด้านที่ 2 : S = Self - employed ซึ่งก็คือรายได้จากการทำธุรกิจส่วนตัว

ด้านที่ี่ 3 : B = Business owner ซึ่งก็คือรายได้จากการเป็นเจ้าของกิจการ

ด้านที่ 4 : I = Investor ซึ่งก็คือรายได้จากการเป็นนัก
ลงทุนนั่นเอง

คนเราทุกคนยืนอยู่ด้านใดด้านหนึ่งของเงินสี่ด้าน ขึ้น อยู่กับว่ารายได้ของคุณมาจากอะไร หากคุณเป็นมนุษย์เงินเดือน คุณคือลูกจ้างและอยู่ด้านซ้าย อีกลุ่มที่ยืนที่ยืนอยู่ด้านเดียวกันกับลูกจ้าง คือพวกประกอบธุรกิจส่วนตัว ส่วนด้านขวาคือผู้ซึ่งมีรายได้จากกิจการที่ตนเป็นเจ้าของและนักลงทุน

เงินสี่ด้านเป็น เรื่องของคนสี่กลุ่มที่ประกอบกันขึ้นเป็นโลกแห่งธุรกิจ โดยทั้งสี่กลุ่มมีอุปนิสัยทัศนคติแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คุณคิดว่าคุณกำลังยืนอยู่ที่จุดใหน และคุณสามารถเปลี่ยนไปอยู่จุดอื่นเพื่อก้าวไปสู่การมี "อิสรภาพทางการเงิน" ได้อย่างไร นี่เป็นสิ่งที่คุณจะต้องค้นหาด้วยตัวคุณเอง ถึงแม้ว่าอิสรภาพทางการเงินจะมีอยู่ทั้งสี่ด้านของงานทั้งสี่อาชีพแต่ความ รู้ความชำนาญจากการเป็นเจ้าของกิจการและนักลงทุน จะช่วยให้คุณไปถึงจุดหมายได้เร็วขึ้น

แล้วเพื่อน ๆหละ อยู่ด้านใหนกัน

Robert เขาบอกว่า "พ่อจนสอนให้ผมเป็นลูกจ้าง เงินเดือนสูงๆ หรือไม่เป็นทำธุรกิจส่วนตัว ที่มีรายได้ก่อนโต เช่น หมอ ทนาย นักบัญชี พ่อชอบงานมั่นคง เงินเดือนดี พร้อมผลตอบแทนพ่อจึงเป็นข้าราชการระดับอธิบดี กรมการศึกษาของรัฐฮาวายเลยที่เดียว"
คำสอนของพ่อรวย
ส่วนพ่อ รวยแต่การศึกษาน้อยให้บทเรียนที่ต่างออกไป พ่อรวยสอนว่า "ไปโรงเรียนให้จบ แล้วเป็นเจ้าของกิจการและเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จเถิด " พ่อแนะนำ

Robert เขาเชื่อคำสอนของพ่อรวยเขาประสบความสำเร็จกลายเป็นเศรษฐี ในปี 1989 และมีอิสรภาพทางการเงิน ในปี 1994 ซึ่งเป็นปีที่เขาไม่ต้องทำงานอีกเลยไม่ว่าเศรษฐกิจโลกจะเป็นอย่างไร

จรัส สีทะจันทร์
ปณิทาน : ยิ่งให้ยิ่งได้

ติดต่อผมได้ที่ Mail : jaratse@jaratse.com
สิ่งที่ผมกำลังทำ: www.twitter.com/jaratse
เป็นเพื่อนFacebookกับผมที่ : www.facebook.com/jaratsefan
วิดีโอแบ่งปันของผม :www.youtube.com/user/jaratse

ความรู้และประสบการณ์ดี ๆ มีไว้แบ่งปัน
ปล. Comment อันยอดเยี่ยมของคุณมีค่า กรุณาแบ่งปันให้คนอื่นที่เข้ามาศึกษาได้รับรู้
และอย่าลืมแบ่งปันบทความที่ดีนี้ให้เพื่อน ๆ รับรู้ คลิกแบ่งปันที่ Icon ด้านล่าง
เพื่อแบ่งปันบทความนี้