
ความแตกต่างของ “จิตวิญญาณ” ของเงินสี่ด้าน
1. ลูกจ้าง คำว่า มั่นคง ผลประโยชน์ ทำให้เข้าใจความคิดของผู้พูด มั่นคง เป็นการจัดการกับความกลัว เมื่อรู้สึกกลัว บางคนจะมองหาความมั่นคง จึงเป็นคำที่ลูกจ้างนิยมใช้ หลายคนเกิดความกลัว ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับเงินและงาน หรือความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ เป็นที่มา ของคำว่ามั่นคง ส่วนผลประโยชน์หมายถึงความต้องการสิ่งตอบแทนอื่นๆ ที่ต้องมีการชี้แจงผูกพันชัดเจน เช่น เงินตอบแทนพิเศษ ประกันสุขภาพ ค่ารักษาพยาบาล ประเด็นคือต้องระบุชัดเจนและความมั่นใจ ความไม่แน่นอนคือสิ่งที่คนกลุ่มนี้ทนไม่ได้ ทุกอย่างต้องจัดเจนแจ่มแจ้ง “ฉันทำให้คุณ...และคุณสัญญาว่าจะให้สิ่งเหล่านี้แก่ฉันเป็นการตอบแทน” คนกลุ่มนี้ต้องการความชัดเจน มั่นคง เพื่อขจัดความกลัว ยิ่งเป็นลายลักษณ์อักษรยิ่งดี เพราะฉะนั้นคนประเภทนี้ มักจะพูดว่า ผมไม่สนใจเรื่องเงิน สิ่งที่เขาสนใจยิ่งกว่าคือความมั่นคง
ลูกจ้างอาจเป็นประธานบริษัท หรือภารโรง เขามีหน้าที่อะไรไม่สำคัญเท่าสัญญาว่าจ้างที่บริษัทมีต่อเขานั่นเอง ...
2. “คนทำธุรกิจส่วนตัว” ได้แก่คนที่ต้องการเป็นนายของตัวเองหรือชอบทำทุกอย่างด้วยตนเอง โดยทั่วไป คนทำธุรกิจส่วนตัว จะเป็นคนที่ไม่ชอบขึ้นกับใคร โดยเฉพาะเรื่องเงิน ๆ ทองๆ เมื่อทำงานหนักก็หวังจะได้รับค่าตอบแทนที่คุ้มค่า กับงานนั้น ๆ ไม้ต้องการให้ใครมาควบคุมรายได้ของตัวเอง โดยเฉพาะจากคนที่ทำงานน้อยกว่า ถ้าจ้างคนประเภทนี้ทำงาน ควรจะให้เขาได้รับค่าตอบแทนอย่างเต็มที่ เพราะเขาจะทำงานให้คุณอย่างเต็มที่เหมือนกัน คนประเภทนี้จะต้องการเป็นอิสระ จะไม่ยอมให้ใครมาควบคุมรายได้ของเขาเด็ดขาด ขณะที่ลูกจ้างกำจัดความกลัวด้วยความมั่นคง คนทำธุรกิจส่วนตัว จะมีวิธีการที่แตกต่างออกไป แทนที่คนกลุ่มนั้นจะวิ่งหาความมั่นคง พวกเขากลับพยายามควบคุมสถานการณ์โดยทำทุกอ ย่างด้วยตัวเอง สำหรับคนกลุ่มนี้เงินไม่ใช่ใจความสำคัญแต่การมีอิสระนั้นเป็นสิ่งที่เขาต้อง การในการทำงาน และการที่มีคนยอมรับในฝีมือของเขา สองอย่างนี้สำคัญมากยิ่งกว่าเงินที่ได้เลยที่เดียว

3. “ เจ้าของกิจการ” คนกลุ่มนี้จะตรงข้ามกับ คนทำธุรกิจส่วนตัวอย่าง สิ้นเชิง โดยคนกลุ่มนี้มีแนวความคิดว่า “จะทำเองไปทำไมในเมื่อมีคนอื่นทำได้ และอาจทำได้ดีกว่าตัวเองทำเสียอีก” เจ้าของกิจการจะเที่ยวหาคนทีเก่งมีความสามารถมาร่วมงานด้วย
4. “นักลงทุน” นักลงทุนใช้เงินทำงาน เขาจึงไม่ต้องทำงาน เพราะใช้เงินทำงานแทน
“นัก ลงทุน” คือจุดเริ่มต้นของการไปสู่ความร่ำรวย ไม่ว่าคุณจะอยู่ด้านใด มีรายได้จากส่วนไหน ถ้าอยากรวย คุณต้องเป็นนักลงทุน เพราะที่ด้านนี้ เงินจะถูกเปลี่ยนเป็นความร่ำรวย

ปณิทาน : ยิ่งให้ยิ่งได้
ปล. Comment อันยอดเยี่ยมของคุณมีค่า กรุณาแบ่งปันให้คนอื่นได้รับรู้
และอย่าลืมแบ่งปันบทความที่ดีนี้ให้เพื่อน ๆ รับรู้ คลิกแบ่งปันที่ Icon ด้านล่าง
เพื่อแบ่งปันบทความนี้
0 Responses to "ความแตกต่างของ “จิตวิญญาณ” ของเงินสี่ด้าน":
แสดงความคิดเห็น